บทที่ 5 การทำแท้งและการใช้ยาทำแท้ง คุณชอบอันไหน

หทัยทิพย์มองหาแววตาที่แตกต่างไปจากเดิมบนใบหน้าของเขา

เขาก็มองเธออยู่เช่นกัน—

ไม่ใช่สายตาที่ว่างเปล่าไร้ชีวิตชีวาอีกต่อไป

ในวินาทีนี้ ดวงตาของธนวัฒน์กำลังจ้องมองมาที่หทัยทิพย์

ในแววตานั้นเต็มไปด้วยความโกรธ ความเกลียดชัง และความสงสัยเล็กน้อย

"ป้าสมศรี!" หทัยทิพย์ร้องลั่นเหมือนแมวโดนเหยียบหาง เธอรีบวิ่งพรวดออกไปลงบันได "ป้าสมศรีคะ คุณธนวัฒน์ฟื้นแล้ว! เขาพูดได้แล้ว คราวนี้เขาฟื้นขึ้นมาจริงๆ แล้วค่ะ!"

หน้าอกของเธอสะท้อนขึ้นลงอย่างรวดเร็ว หัวใจเต้นระรัว

ธนวัฒน์ฟื้นแล้ว

ในหัวของเธอว่างเปล่าไปหมด

เรื่องนี้มันเหนือความคาดหมายของเธอโดยสิ้นเชิง

เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าถ้าเขาฟื้นขึ้นมาแล้วจะทำอย่างไร

ป้าสมศรีรีบโทรตามหมอและบอดี้การ์ด

ทั้งคฤหาสน์เต็มไปด้วยผู้คน

ทุกคนแทบไม่เชื่อสายตาว่าธนวัฒน์จะฟื้นขึ้นมาได้

"ธนวัฒน์ แม่รู้ว่าลูกต้องฟื้นขึ้นมาแน่ๆ!" รวิสราจับมือของเขาไว้ น้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความดีใจ

หมอตรวจร่างกายของธนวัฒน์แล้วพูดกับรวิสราว่า "นี่มันปาฏิหาริย์ชัดๆ ครับ! ค่าต่างๆ ในร่างกายของคุณธนวัฒน์กลับมาใกล้เคียงปกติแล้ว หลังจากนี้แค่ทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถฟื้นฟูสุขภาพให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมได้ครับ"

หลังจากทุกคนกลับไปแล้ว หทัยทิพย์ก็เดินเข้ามาในห้อง

เธอกำชายเสื้อด้วยความประหม่า ไม่กล้าสบตากับชายหนุ่มบนเตียง

รัศมีที่แผ่ออกมาจากธนวัฒน์หลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมานั้น ช่างดูน่ากลัวและเย็นชาเสียเหลือเกิน

ตอนนี้เขาพิงหัวเตียงอยู่ ดวงตาคู่คมที่ไร้ซึ่งความอบอุ่นจับจ้องมาที่ใบหน้าของเธอ พร้อมกับปล่อยไอเย็นยะเยือกออกมา

"เธอเป็นใคร?"

น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำและทรงพลัง เต็มไปด้วยอำนาจที่น่าเกรงขาม

หทัยทิพย์ตกใจจนแทบไม่กล้าหายใจ

ป้าสมศรีก้มหน้าลง เอ่ยอธิบายแทนเธออย่างระมัดระวัง "คุณชายคะ เธอคือภรรยาที่คุณหญิงใหญ่จัดหาให้คุณชายระหว่างที่ป่วยอยู่ค่ะ เธอชื่อ..."

ธนวัฒน์เผยอริมฝีปากบางเบาๆ น้ำเสียงไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ "ไล่เธอออกไป!"

หทัยทิพย์ตกใจจนเผลอถอยหลังไปสองก้าว

เขาเปรียบดั่งสัตว์ป่าที่เพิ่งตื่นจากการหลับใหล ตอนที่ยังหลับอยู่ไม่รู้สึกว่าเขาอันตรายหรือน่ากลัวเท่าไหร่ แต่ทันทีที่เขาลืมตาขึ้นมา ความอันตรายก็แผ่ซ่านออกมาจนน่าขนลุก

ป้าสมศรีจูงมือหทัยทิพย์ออกมาจากห้อง แล้วปิดประตูลง

เมื่อเห็นหทัยทิพย์มีท่าทางเหมือนลูกกวางตื่นตกใจ ป้าสมศรีก็ปลอบโยนว่า "คุณผู้หญิงคะ อย่ากลัวไปเลยค่ะ คุณชายเพิ่งฟื้น อาจจะยังรับเรื่องนี้ไม่ค่อยได้ คืนนี้คุณผู้หญิงไปนอนที่ห้องรับแขกก่อนนะคะ มีอะไรค่อยว่ากันพรุ่งนี้ค่ะ"

ในหัวของหทัยทิพย์สับสนวุ่นวายไปหมด เธอไม่เคยคิดเลยว่าเขาอาจจะฟื้นขึ้นมา

ทำให้เธอไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรไว้เลย

จากสายตาที่ดุดันและเย็นชาที่ธนวัฒน์มองเธอเมื่อครู่ ทำให้เธอมีลางสังหรณ์อย่างรุนแรงว่า เขาคงไม่ยอมรับเธอในฐานะภรรยาแน่

เธอต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่จะจากตระกูลบูญศิริได้ทุกเมื่อ

ถึงแม้เธอจะเป็นภรรยาของเขา แต่ว่ากันตามตรง นี่คือการพบกันครั้งแรกของพวกเขา เขาจะรู้สึกเป็นปรปักษ์กับเธอก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้

เช้าวันรุ่งขึ้น เวลาแปดโมง

หทัยทิพย์เดินมาที่ห้องอาหาร ยังไม่ทันจะถึง ก็เห็นธนวัฒน์นั่งอยู่บนรถเข็นแล้ว

แขนของเขาทั้งสองข้างเริ่มขยับได้แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ

เขานั่งอยู่บนรถเข็นในท่วงท่าที่สง่างามและหลังตรง

ด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ เธอเดินมานั่งลงที่โต๊ะอาหาร

ป้าสมศรีนำถ้วยกับตะเกียบมาให้เธอ

เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยสักคำ

เธออดไม่ได้ที่จะแอบชำเลืองมองเขา

"เอ่อ... ฉัน... ฉันชื่อหทัยทิพย์ค่ะ..." เธอเอ่ยปากพูดอย่างประหม่า

ธนวัฒน์ยกถ้วยกาแฟขึ้นมา จิบอย่างสบายอารมณ์ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า "ได้ยินว่าเธอคิดจะคลอดลูกของฉันเหรอ?"

หทัยทิพย์ตกใจจนตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับ

"ทำแท้งด้วยการขูดมดลูกกับใช้ยา เธอชอบแบบไหนล่ะ?" เขาพูดประโยคที่โหดร้ายที่สุดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งที่สุด

หทัยทิพย์เคยคิดว่าผู้ชายคนนี้ใจดำอำมหิต แต่ไม่คิดว่าเขาจะโหดเหี้ยมได้ถึงขนาดนี้

ตะเกียบในมือของเธอค้างอยู่กลางอากาศ ในใจปั่นป่วนราวกับคลื่นพายุ แต่ใบหน้ากลับซีดเผือดไร้สีเลือดด้วยความหวาดกลัวสุดขีด

ป้าสมศรีคงรู้สึกว่าหัวข้อนี้มันน่ากลัวเกินไป เลยลืมมารยาทไปชั่วขณะ เอ่ยปากอธิบาย "คุณชายคะ เด็กคนนี้เป็นความต้องการของคุณหญิงใหญ่ค่ะ ไม่เกี่ยวกับคุณผู้หญิงเลย"

ธนวัฒน์ตวัดสายตามองป้าสมศรี "อย่าเอ่ยถึงคุณหญิงใหญ่"

ป้าสมศรีก้มหน้าลงแล้วเงียบปากทันที

หทัยทิพย์ "คุณธนวัฒน์..."

ธนวัฒน์ "ใครอนุญาตให้เธอเรียกชื่อฉัน?"

หทัยทิพย์ชะงักไปครู่หนึ่ง "แล้วจะให้เรียกอะไรคะ? เรียกว่าคุณสามีเหรอ?"

ธนวัฒน์ "..."

เธอเห็นริมฝีปากบางของเขาเม้มแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

ก่อนที่เขาจะระเบิดอารมณ์ออกมา เธอรีบดับไฟเสียก่อน "ฉันไม่ได้ท้องค่ะ ประจำเดือนฉันมาแล้ว"

ธนวัฒน์ไม่ได้พูดอะไร แต่เขายกถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบอีกครั้ง

หทัยทิพย์รีบกินอาหารเช้าอย่างรวดเร็ว เธอเตรียมจะกลับห้องไปหยิบกระเป๋าแล้วออกจากบ้าน

การอยู่ใต้ชายคาเดียวกับเขาทำให้เธอรู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว

"หทัยทิพย์ เตรียมทะเบียนสมรสของเธอไว้ให้ดี เราจะหย่ากันเร็วๆ นี้" เสียงเย็นเยียบของเขาดังตามมา

หทัยทิพย์หยุดชะงัก แต่ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมากนัก "จะไปตอนนี้เลยไหมคะ?"

"อีกสองสามวัน" เขาตอบ

เมื่อคืนรวิสราตื่นเต้นมากเกินไปจนความดันขึ้นสูง ต้องนอนโรงพยาบาล

ธนวัฒน์ไม่อยากให้แม่ต้องกระทบกระเทือนใจอีก

"อ๋อ ฉันพร้อมเสมอค่ะ" เธอรีบเดินกลับเข้าห้องไป

ประมาณห้านาทีต่อมา เธอก็ถือกระเป๋าออกมาจากห้อง

ไม่คาดคิดว่าภาวิตจะมา

ภาวิตทำตัวลีบเหมือนลูกหมา ยืนอยู่ข้างรถเข็นของธนวัฒน์อย่างนอบน้อม

"คุณอาครับ พ่อกับแม่ไปเยี่ยมคุณย่าที่โรงพยาบาล ท่านเลยให้ผมมาเยี่ยมคุณอาแทนครับ" ภาวิตวางของบำรุงที่นำมาด้วยลงบนโต๊ะกาแฟ

ธนวัฒน์ส่งสายตาให้บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างๆ

บอดี้การ์ดเข้าใจในทันที เขาหยิบของขวัญที่ภาวิตนำมาแล้วโยนทิ้งออกไปข้างนอก

ภาวิตหน้าเสีย "คุณอาครับ! ของที่ผมเอามาให้ล้วนเป็นของบำรุงชั้นดีทั้งนั้น ถ้าคุณอาไม่ชอบ ผมเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นให้ก็ได้... คุณอาอย่าโกรธเลยนะครับ!"

เขายังพูดไม่ทันจบ บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ ก็เดินเข้ามาเตะเข้าที่ข้อพับขาของเขาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

ภาวิตทรุดลงไปคุกเข่ากับพื้นเสียงดังตุ้บ

หทัยทิพย์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ

เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมธนวัฒน์ถึงได้ทำรุนแรงกับหลานชายแท้ๆ ของตัวเองแบบนี้

"ไม่คิดว่าฉันจะฟื้นขึ้นมาสินะ? เจ้าหลานชายตัวดีของฉัน แผนการที่วาดฝันไว้พังทลายลงแล้วสินะ?"

ภาวิตคุกเข่าอยู่บนพื้น ถูกกดตัวไว้แน่นจนขยับไม่ได้ เขาร้องไห้คร่ำครวญ "คุณอาพูดอะไรอย่างนั้นครับ? คุณอาฟื้นขึ้นมาได้ ผมดีใจยิ่งกว่าใครอีกนะครับ ผมเฝ้ารอทุกวันให้คุณอาฟื้นขึ้นมาเร็วๆ!"

บทก่อนหน้า
บทถัดไป